เอดิสัน คาวานี่ อยู่ดีไม่ว่าดีทำตัวเข้าตำรา “แกว่งเท้าหาเสี้ยน” ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากมือลั่นดีใจเกินเหตุโพสต์ข้อความไม่เข้าท่าหาเรื่องใส่ตัวไปในทางเหยียดผิวผ่านสื่อออนไลน์ยอดฮิตอย่างอินสตาแกรม ทำให้มีสิทธิ์ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ลงโทษแบนได้เลยทีเดียว
แม้ว่า คาวานี่ เพิ่งจะสวมบทซูเปอร์ซับลงไปสับคนเดียวสองประตูช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
บุกไปปล้นชัยชนะจากเซาแธมป์ตันได้ราวปาฏิหาริย์ 3-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

เกมดังกล่าวทำท่าว่าจะจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่นหลังออกนำห่าง 2-0 ในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังกลับกลายเป็นหนังคนละม้วนเมื่อสังเวียนเหย้าของทีมนักบุญอย่างเซนต์ส แมร์รี่แปรสภาพกลายเป็นนรกไปทันที หลังจากที่คาวานี่ถูกเปลี่ยนลงไปเป็นตัวสำรองตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง โดยดาวยิงจอมเก๋าทีมชาติอุรุกวัยจ่ายให้จอมทัพของทีมอย่างบรูโน่ แฟร์นันเดสตีไข่แตกให้ปีศาจแดงไล่มาเป็น 1-2 ก่อนที่คาวานี่จะกลายร่างเป็นซาตานพรากชัยชนะไปจากทีมเจ้าบ้านอย่างเหลือเชื่อเมื่อเหมาคนเดียวสองตุงพลิกกลับมาแซงชนะไปแบบแสบสัน 3-2 โดยเฉพาะประตูชัยนั้นคาวานี่ทำได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บอีกต่างหาก
อย่างไรก็ดีจากการที่คาวานี่มือลั่นโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมลงไปในไอจีแม้จะรีบลบทันทีที่คิดได้แต่ก็ไม่ทันสิงห์ปืนไวที่แค็ปหน้าจอไปเป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว โดยเอฟเอก็ไม่นิ่งเฉยจัดการเรียกตัวคาวานี่เข้าไปชี้แจงในกรณีนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งโอกาสโดนแบนยาว 3 เกมแบบมีผลทันทีเลย

คาวานี่มือลั่นโพสต์ในไอจีไปด้วยภาษาสแปนิชเชิงสองแง่สองง่ามเอียงไปทางเหยียดผิวว่า “Gracias negritro” ที่ตีความหมายออกมาแนว ๆ ว่า “ขอบคุณไอ้ดำ” แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่คำพูดขำ ๆ ที่ใช้แซวกันในหมู่ชาวละตินอเมริกาใต้ แต่สำหรับทวีปอื่นนั้นมันไม่ขำด้วยเลยกลับกลายเป็นการหยามชัด ๆ โดยก็ต้องลุ้นกันว่าคาวานี่จะโดนแบนกี่นัด หลังจากที่ก่อนหน้านี้หลุยส์ ซัวเรซเคย อดีตเพชฌฆาตของลิเวอร์พูล โดนแบนยาวถึง 8 นัดจากการพ่นคำนี้ใส่ปาทริซ เอวร่ามาแล้ว

จากความมหัศจรรย์ของคาวานี่ช่วยให้ผีแดงกลับขึ้นไปติดท็อปเท็นในตารางพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จด้วยการรั้งอันดับ 8 มี 16 แต้มจากการเล่นไป 10 นัด ขณะเดียวกันนั้นนับว่าเป็นการเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสโมสรไปเป็นที่เรียบร้อยด้วยการเดินหน้ากวาดชัยติดต่อกันเป็นเกมที่ 8 แถมพลพรรคปีศาจแดงยังกลายเป็นทีมแรกในพรีเมียร์ลีกที่พลิกกลับมาซิวชัยไปได้ 4 นัดรวดจากการเป็นฝ่ายตามหลังฐานะทีมเยือนด้วย
ติดตาม ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ อัพเดทข่าววงการ พรีเมียร์ลีก คุณจะไม่พลาดสิ่งที่น่าสนใจ