เวนย์ รูนี่ย์ ในเส้นทางการเป็นนักฟุตบอล เมื่ออายุมากขึ้นก็มีตัวเลือกให้ทำงานพอสมควร บางคนเลือกใช้ทักษะและประสบการณ์ไปทำงานด้านการวิเคราะห์ เป็นกูรูแสดงความคิดเห็น บางคนไปเป็นบอร์ดบริหารสโมสรที่เคยลงเล่นให้ บางคนก็กลับไปทำงานโค้ชให้ด้วยความภาคภูมิใจ และบางคนก็เลือกเป็นผู้จัดการทีม
สำหรับแฟนบอลที่ได้เห็นนักเตะหนึ่งคนก้าวจากเยาวชน จนถึงช่วงเวลาก่อนที่เขาคนนั้นจะแขวนสตั๊ด ไม่ลงมาวาดลวดลายการเตะบอลให้เห็นอีก มันเป็นเวลาที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย แต่นั่นยังน่าจะน้อยไปกว่านักฟุตบอลเอง ที่เขาจะไม่ได้ลงสนามไปสู้เพื่อเกียรติยศและแฟนบอลอีกแล้ว
ทันทีที่ดาร์บี้บอกเลิกการร่วมงานกับฟิลลิป โคคู และขอให้ เวนย์ รูนี่ย์ ก้าวขึ้นมารับบทบาทเพิ่มในฐานะผู้จัดการทีมชั่วคราว
หลังจากที่เขาเข้ามาเป็นโค้ชกึ่งผู้เล่นให้กับทีมตั้งแต่ช่วงมกราคม 2020ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 4 เดือนหลังจากเสร็จสิ้นการเล่นฟุตบอลให้กับทีมดีซี ยูไนเต็ด ทีมในเมเจอร์ลีกของสหรัฐอเมริกา และเดินทางกลับมาอังกฤษตั้งแต่สิงหาคม
เวนย์ รูนี่ย์ ที่ลงเล่นฟุตบอลอาชีพให้กับเอฟเวอร์ตันตั้งแต่อายุ 17 ปี ผ่านการเล่นให้กับเอฟเวอร์ตัน แมนฯยูไนเต็ด ดีซี ยูไนเต็ดและดาร์บี้ เค้าท์ตี้ รวมแล้วเกือบ 700 นัด และติดทีมชาติอังกฤษทุกรุ่นไปเกิน 130 เกม ตอนนี้เขาอายุ 35 ปี และกำลังอยู่ในจุดที่จะต้องเลือกแล้วว่าจะก้าวเดินแบบไหน
สำหรับดาร์บี้ เค้าท์ตี้ที่อยู่ในกลุ่มบ๊วยของตารางแชมเปี้ยนชิพ การเข้ามาแก้ปัญหาในฐานะของผู้จัดการทีมควรเป็นแบบจริงจังและทุ่มเท หากแต่ รูนี่ย์ ยังมีประสบการณ์ในการคุมทีมน้อยมาก มันจึงเป็นเรื่องที่น่าหนักใจสำหรับเขาที่ยังคิดว่าตนเองเล่นฟุตบอลไหว
“ถ้าผมรับบทจัดการทีมในระยะเวลาที่นานกว่าแค่ชั่วคราว มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะคุมทีมด้วย ลงเล่นไปด้วย แบบนั้นก็คงเป็นการต้องรีไทร์จริงๆ” รูนี่ย์ กล่าวถึงเรื่องนี้
“ถ้าสโมสรร้องขอว่าให้ช่วยคุมทีมแบบจริงจัง ไม่ต้องลงไปเล่นหรอก นั่นก็น่าจะเป็นการหยุดสำหรับชีวิตการค้าแข้งไปเลย”
รูนี่ย์ บอกว่าตอนนี้ทีมกำลังต้องการใครสักคน คนที่เสียงของเขาจะเป็นการตัดสินใจทุกอย่างในเกมข้างหน้า คนนั้นต้องเป็นคนที่ใช่ในสถานการณ์นี้ และเขาตื่นเต้นที่มาถึงจุดนี้ และมันก็โอกาสที่กำลังหยิบยื่นความท้าทายอย่างมากมาให้เขา
สำหรับนักเตะแล้วมันไม่มีอะไรยากไปกว่าการเลิกทำสิ่งที่ทำมาทั้งชีวิต เช่น การลงไปสัมผัสเกมและบรรยากาศการแข่งขัน การเปลี่ยนบทบาทเมื่อถึงเวลาอันสมควรก็เป็นเรื่องที่ทุกคนเตรียมใจรอกันอยู่แล้ว แต่ รูนี่ย์ อาจจะต่างไป ตรงที่มันมาถึงในวันที่เขายังมีพลังนำลูกทีมวิ่งไล่ลูกบอลอย่างสนุกสนามอยู่เลย.
ติดตาม ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ อัพเดทข่าววงการ พรีเมียร์ลีก คุณจะไม่พลาดสิ่งที่น่าสนใจ